ข่าวฟุตบอล เวย์น รูนี่ย์ ได้บทฮีโร่ทันทีที่กลับมาลงสนามให้ “สิงโตคำราม” อังฤษ เมื่อโขกพังประตูชัยให้ทีมเอาชนะยูเครน เจ้าภาพร่วม 1-0
ภาพประกอบจาก AFP picture
ผลบอลยูโร 2012 กลุ่ม ดี
วันอังคารที่ 19 มิถุนายน 2555
สนาม : ดอนบาส อารีน่า
อังกฤษ 1 : 0 ยูเครน
ประตู : 1-0 รูนี่ย์ น.48
ไฮไลท์การทำประตูในเกมนี้
ครึ่งแรก
ยูเครน เป็นฝ่ายเขี่ยก่อน และก็ได้ลุ้นจังหวะแรกทันที ในนาทีที่ 7 เมื่อ เดนีส การ์มาช มิดฟิลด์สโมสรดินาโม เคียฟ ได้ซัดไกลกว่า 30 หลา บอลเหินข้ามคานออกไปแบบได้เสียว
นาทีที่ 22 “เจ้าภาพร่วม” ได้โอกาสอีกครั้ง เมื่อ แอชลี่ย์ ยัง พลาด ไปเสียบอลให้กับ โอเลค กูเซฟ แบ็กขวายูเครน ได้ลากไปซัดด้วยซ้าย ระยะประมาณ 25 หลา บอลข้ามคานไปไม่กี่นิ้ว
นาทีที่ 28 นึกว่าจะใส่สกอร์ไปแล้วสำหรับอังกฤษในจังหวะนี้ ที่ยังครอสบอลด้านข้างยาวเข้าไปในกรอบเขตโทษจนถึงเสาสองที่มีรูนี่ย์สอดขึ้น มาคนเดียว แต่เหมือนก่ะพลาดไปหน่อย กระโดดเทคตัวขึ้นก่อน ทำให้ตอนที่บอลมาถึงหัวเขาก็ตกลงมาแล้ว เลยทำได้แค่โหม่งทากๆบอลพุ่งออกหลังไปแบบไม่ได้ลุ้นอะไร ทั้งที่เป็นโอกาสทองแท้ๆ
นาทีที่ 30 ยูเครน ทำได้ดีอีกครั้งโดย อังเดร ยาร์โมเลนโก้ เพลย์เมคเกอร์ตัวกลั่นที่ได้บอลในเขตโทษก่อนล็อกหลบแอชลี่ย์ โคล แต่งบอลเข้าซ้ายข้างถนัดแล้วอัดเรียดแต่ว่าโจ ฮาร์ท ดักทางเยี่ยมล้มตัวรับบอลไม่มีกระฉอก
ช่วงเวลาที่เหลือของครึ่งแรก ยูเครน ทำเกมได้เหนือกว่าเล็กๆ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรกันได้ ทำให้จบครึ่งแรกเกมยังเสมอกันอยู่ 0-0
ครึ่งหลัง
นาที ที่ 48 การเปิดบอลของ เจอร์ราร์ด ที่ครอสเรียดอัดเข้ามากลางประตู บอลไปแฉลบ มาร์ดก เดวิช และเยฟเกน คาชาริดี้ จนทำให้ อังเดร เปียตอฟ ประตูยูเครน ดักไม่ถูกสุดท้ายบอลปลิ้นมาเข้าหัว รูนี่ย์ ที่ยืนคนเดียวเสาไกลขวิดบอลเข้าไปเป็นประตูนำ 1-0
หลังจากนั้น ยูเครน เกือบตีเสมอได้ในนาทีที่ 59 จากการขึ้นโหม่งของ อาร์เต็ม มิเลฟสกี้ แต่ว่าข้ามคาน ก่อนที่อีก 2 นาทีถัดมา มิเลฟสกี้ จะเปิดให้ มาร์โก เดวิช ได้เติมมาซดเต็มๆ ไปติดโจ ฮาร์ท และบอลทำท่าเหมือนจะกระเด้งเข้าแต่ จอห์น เทอร์รี่ สวมใจสิงห์วิ่งกลับไปสกัดบอลบนเส้นประตูได้แบบคาบลูกคาบดอก ท่ามกลางการประท้วงของยูเครน ที่คิดว่าบอลเข้าไปแล้ว
อย่างไรก็ดีเกม ต้องดำเนินต่อไป โดยหลังจากนั้นก็มีโอกาสกันทั้งสองทีม อังกฤษ ได้ลุ้นจากแอชลี่ย์ โคล ขณะที่เจ้าภาพได้โอกาสยิงไกลของโคโนเปลียนก้า ซึ่งซัดไกลทั้งหนักทั้งแม่นจนโจ ฮาร์ท รับไม่อยู่ ดีที่โดนสกัดท้งได้อย่างหวุดหวิด โดยระหว่างนี้มีการส่งตัวรุกลงมาเสริมทั้งสองฝั่งโดย ธีโอ วัลค็อตต์ ได้ลงมาพร้อมๆกับ อังเดร เชฟเชนโก้
ช่วงเวลาที่เหลือ แม้ยูเครน จะพยายามเท่าไหร่แต่ก็ยิงคืนไม่ได้ โดย อังกฤษ เองก็พอมีโอกาสแต่ก็ทำไม่ได้เหมือนกัน สุดท้าย อังกฤษ เฉือนเอาชนะได้ 1-0 เป็นแชมป์กลุ่ม ได้ไปเจอกับ อิตาลี ในรอบต่อไป
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
อังกฤษ: โจ ฮาร์ท – เกล็น จอห์นสัน, จอห์น เทอร์รี่, โจลีออน เลสค็อตต์, แอชลี่ย์ โคล – เจมส์ มิลเนอร์ (ธีโอ วัลค็อตต์ น.69), สตีเว่น เจอร์ราร์ด (กัปตันทีม), สกอตต์ พาร์เกอร์, แอชลี่ย์ ยัง – เวย์น รูนี่ย์(อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน น.87) – แดนนี่ เวลเบ็ค (แอนดี้ แคร์โรลล์ น.82)
ยูเครน: อังเดร เปียตอฟ – โอเล็ก กูเซฟ, เยฟเกนี่ คาเชริดี้, ยาโรสลาฟ ราคิตสกี้, เยฟเกนี่ เซลิน – อังเดร ยาร์โมเลนโก้, อนาโตลี ติโมชุค (กัปตันทีม), เยฟเกนี่ โคโนเปลียนก้า – เดนิส การ์มัช (เซอร์เก นาซาเรนโก้ น.78) – มาร์โค เดวิช (อังเดร เชฟเชนโก้ น.70), อาร์เต็ม มิเลฟสกี้ (โบห์ดาน บุตโก้ น.77)
ที่มา.http://football.kapook.com/news_inside.php?id=15654&key=news